คู่มือเจ้าหนี้ บทที่ 4 การฟ้องคดีต่อศาล
คู่มือเจ้าหนี้ บทที่ 4 การฟ้องคดีต่อศาล เมื่อไม่สามารถทวงถามกันได้ ก็จำเป็นต้องใช้สิทธิทางศาล บทนี้ผมจะมาเรียบเรียงให้เจ้าหนี้ทราบว่าจะต้องจัดการอย่างไร มีกระบวนการทางศาลอย่างไรแน่นอนว่าจะต้องติดต่อทนายความเพื่อฟ้องร้องดำเนินคดีครับ หลายท่านอาจจะทราบว่ากู้ยืมเงินเป็นคดีแพ่ง แต่บางกรณีก็สามารถฟ้องเป็นคดีอาญาได้ ค่าทนายความส่วนใหญ่ทนายจะคิดค่าทนายจาก ทุนทรัพย์ที่จะฟ้องร้องค่าทนายนี่แล้วแต่ทนายแต่ละคนจะคิดค่าวิชาชีพกันเลยครับ แต่บางสำนักงานจะคิดค่าทนายคดีแพ่งที่ ร้อยละห้า ถึงร้อยละสิบของทุนทรัพย์ ส่วนคดีอาญานี่จะขึ้นอยู่กับความยากง่ายของแต่ละคดีผมมานั่งคิดว่า การที่เจ้าหนี้จะดำเนินคดีเอง โดยไม่ต้องจ้างทนายนั้น ที่จริงค่อนข้างลำบาก เพราะการร่างคำฟ้องอย่างไรให้ไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม หรือ การถามพยาน การถามค้านในกระบวนการพิจารณาคดี ไหนจะกระบวนการที่ค่อนข้างซับซ้อน แม้แต่นักศึกษานิติศาลตร์ ที่ยังไม่ได้ใบอนุญาตทนายความยัง หนักใจเวลาจะร่างคำฟ้อง หรือขึ้นศาล คิดดูนะครับปีหนึ่งมีคนสอบใบอนุญาตทนายความ เป็นหมื่นยังผ่านไม่ถึงครึ่ง ดังนั้นท่านเจ้าหนี้ควรจะมีทนายความ ที่ท่านไว้ใจได้ และราคาอยู่ในงบประมาณของท่าน ก่อนที่จะฟ้องคดีแพ่งหรืออาญานั้น ผมมีหลักสังเกตง่ายๆ แบบนี้ครับ o ถ้าลูกหนี้มีเจตนาจะไม่จ่ายตั้งแต่ต้น ถือว่าเป็นคดีอาญาฐานฉ้อโกงo ถ้าลูกหนี้มีเจตนาจ่ายจริง ไม่ได้บอกกล่าวความเท็จตั้งแต่ต้น แต่เพียงว่าภายหลังไม่สามารถชำระได้ เป็นเพียงผิดสัยาทางแพ่งo ความผิดฐานฉ้อโกงนั้น เป็นความผิดอันยอมความได้ ซึ่งความผิดอันยอมความได้นั้น ผู้เสียหายต้องร้องทุกข์หรือฟ้องร้องเสียภายใน สามเดือน นับแต่วันที่รู้เรื่องความผิดและรู้ตัวผู้กระทำความผิด ซึ่งวันที่รู้เรื่องความผิดนั้นก็คือ วันที่ท่านทราบว่าลูกหนี้ของท่านมีเจตนาที่จะไม่คืนเงินให้แก่ท่านตั้งแต่แรกแล้วนั่นเองo ดังนั้นหากท่านมิได้ร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนหรือฟ้องร้องคดีดังกล่าวเสียภายในสามเดือน คดีก็เป็นอันขาดอายุความ หาอาจจะดำเนินคดีแก่ผู้ต้องหาได้ไม่ คดีแพ่งก่อนพบทนายให้เตรียมเอกสารไปให้พร้อม… Read More คู่มือเจ้าหนี้ บทที่ 4 การฟ้องคดีต่อศาล